ครั้งก่อนทิ้งท้ายด้วยคำถามที่ว่า เทสบู่ลงแม่พิมพ์โดยไม่ต้องรอให้ Trace ได้ป่าว??

ในตำราปู่ฤาษีบอกว่า.....ได้ !!
          เย้ ตะลุ่งต้งแช่ ! หวานหมูสิงานเนี้ย        
          แต่... จะเชื่อเลยก็กระไรอยู่ ทดลองดูกันเลยมะ

                                                      ...........................................................................

ก่อนทดลองขอเกริ่นพอเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ
การทดลอง ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร  จำเป็นต้องควบคุมปัจจัยต่างๆ ให้เหมือนกันมากที่สุดระหว่างตัวอย่าง 2 กลุ่ม
ที่จะเทียบกัน    ยกเว้นปัจจัยที่เราต้องการจะทราบผลของมันที่จะทำให้แตกต่าง

ถ้าเป็นกระบวนการทดลองจริงๆ ที่ฝรั่งเรียกว่า Experiment ต้องมีการทำซ้ำด้วย และมีตัวอย่างจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับ
จำนวนตัวแปรที่ต้องการทราบผล เพื่อความน่าเชื่อถือในทางสติติ

แต่อันนี้ทดลองระดับอนุบาล ทำแค่นี้ก็จะแย่ละเนอะ
...................................................................

          เข้าเรื่องเสียที  คราวนี้จะกวนสบู่น้ำมันปาล์ม 100% โดยเราอยากรู้ว่า Trace กับไม่ Trace จะทำให้สบู่ที่ได้
เหมือนหรือต่างกัน

ตอนกวนสบู่จึงต้องควบคุมทุกอย่างให้เหมือนกันหมด ทั้งส่วนผสม, อุณหภูมิเริ่มต้น, อัตราการกวน (ถ้าเป็นไปได้),
แม่พิมพ์ เป็นต้น ก็เลยจะกวนหม้อเดียวเพื่อให้ปัจจัยทุกอย่างเหมือนกัน  จะไปแยกเอาตอน Trace โน่นเลยนะ
                                                                   

1. เตรียมโน่นนี่นั่นไว้ให้พร้อม ตามปกติ	2. ชั่งน้ำมันและโซดาไฟตามสูตร
3. เช็คอุณหภูมิทั้งโซดาไฟและน้ำมัน ตั้งใจให้เริ่มต้น ปฏิกิริยาที่ค่าต่ำๆ เลย คือประมาณ 40 องศาฯ	4. เทโซดาไฟ ลงไปในน้ำมันแล้วกวนด้วยเครื่องปั่น มือถือ หรือ Hand mixer ค่ะ
5. ปั่นสักครึ่งนาที แล้วเทส่วนผสมใส่แม่พิมพ์อันแรก ให้เป็นตัวแทนของสบู่ที่ยังไม่ Trace    จากนั้นปั่นต่อ จน Trace ตามปกติ แล้วเทใส่แม่พิมพ์อันที่ 2 ค่ะ	6. หน้าตาจะออกมาแบบนี้ จะเห็นว่าสบู่ที่ยังไม่ Trace ดูออกเหลืองๆ หน่อย เพราะมีน้ำมันบางส่วนยังไม่ได้ ทำปฏิกิริยา
7. ผ่านไป 2 วันมาแกะสบู่ออกจากแม่พิมพ์ พบว่า     - สีมันก็ขาวพอๆ กัน     - สบู่ที่ไม่ Trace มีเนื้อสบู่แฉะๆ เคลือบอยู่ที่ผิวมากกว่านิดหน่อย ซึ่งสบู่ที่ Trace แล้วก็มีอยู่บ้าง  แทบไม่แตกต่าง     - เนื้อสบู่ที่ Trace แล้วดูหนา มี Volumn มากกว่า
8. ลองวัดค่า pH ดู จะได้ประมาณ 10 เหมือนกัน	9. ผ่านไป 2 สัปดาห์ วัดค่า pH ใหม่ ก็ได้ 9 ทั้งคู่
ขอลองอีกซักอย่างน่า เอาไปแช่น้ำโดยให้ใช้น้ำเท่ากัน ภาชนะเหมือนกัน และรูปร่างสบู่เหมือนๆ กัน (กว้าง-ยาว-หนา เท่ากัน)

อ๊ะ! ดูนั่นๆ ความแตกต่างเริ่มปรากฎ
สบู่ที่ Trace ลอยฟ่องเชียวค่ะ  ส่วนสบู่ที่ยังไม่ Trace จมดิ่งไปก้นถ้วยเลย แม้ว่าจะทำซ้ำโดยเปลี่ยนรูปร่างของสบู่ก็ตาม
แสดงว่ามีต่างกันแน่ๆ เรื่องนึง คือน้ำหนักต่อปริมาตร   

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ ถ้าตวงสบู่มา 1 ถ้วยเท่าๆ กัน แล้วชั่งน้ำหนักเทียบกันดู สบู่ที่โดนตกเขียว (ไม่ Trace)
จะหนักกว่าสบู่ที่ Trace แล้ว

ดังนั้น โปรดทราบ! ใครคิดจะทำสบู่ขายแบบให้โกยเอากำมือละ 20 บาท เหมือนขายลูกอมสมัยก่อนเงี้ย
ถ้าสบู่ไม่ Trace ขาดทุนนะเออ...

ให้ข้อมูลเสริมสร้างกำลังใจกันนิดนึงนะคะ...
         
Reference บางอันบอกว่า ขณะกวนสบู่จะเกิดปฏิกิริยา Saponified หรือเกิดสบู่ประมาณ 25-50% ส่วนที่เหลือจะเกิดขึ้น
ภายใน 24 ชั่วโมงหลังกวนสบู่

ถ้าจริงก็หมายถึง จุด Trace ก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของกระบวนการ เพราะมันยังเกิดปฏิกิริยาต่อหลังจากนั้นได้อีก

นอกจากนี้ Saponification เป็นกระบวนการที่ย้อนกลับไม่ได้ภายใต้สภาวะที่เป็นด่าง คือเกิดแล้วเกิดเลยไม่ย้อนกลับ
ในสภาพ pH สูง

แปลเป็นภาษามนุษย์อีกทีว่า ถ้าเราไม่เติมอะไรแปลกพิสดารเข้าไปในหม้อกวนเพิ่ม จนกระทั่งทำให้ pH ต่ำกว่า 7 ล่ะก็..
อย่างไรเสีย สบู่ก็ต้องเกิด (แต่สวยไม่สวยนี่อีกเรื่องนะ)

นั่นหมายถึงในการทำสบู่ ถ้าเรากลัว Trace เร็วเนื่องจากน้ำหอม หรือจากอะไรก็ตาม
เราสามารถเติมกลิ่น ,สี, additive อื่นๆ ลงไปได้ในน้ำมันตั้งแต่แรกเลยก็ได้ค่ะ pH โดยรวมของระบบไม่เปลี่ยนแน่
เพราะมันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับโซดาไฟที่เป็นด่างแก่จัด และอย่าลืม คุมอุณหภูมิหม้อกวนให้ต่ำๆ เข้าไว้
.......................
Sharing รอบนี้จัดหนัก
ขอพักยาวๆ หน่อยนะคะ

ByE.

พฤษภาคม 56